วิวัฒนาการตัวอักษรจีน
วิวัฒนาการตัวอักษรจีน
ตัวอักษรจีนเป็นอักษรภาพเช่นเดียวกับตัวอักษรอียิปต์โบราณ ทว่ากาลเวลาไม่หยุดยั้งเช่นเดียวกับอักษรจีนที่ยังคงมีวิวัฒนาการและเป็นตัวอักษรเดียวที่พัฒนาจากอักษรภาพจนกระทั้งเป็นอักษรจีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน การจากศึกษาพบว่าวิวัฒนาการของตัวอักษรภาษาจีนสามารถแบ่งได้เป็น 3 ช่วงคือ ช่วงอักษรจีนโบราณ ช่วงอักษรจีนปัจจุบัน และช่วงอักษรจีนตัวเต็มตัวย่อ
1. อักษรจีนโบราณ ( 古文字阶段 )
1.1 อักษรภาพ

1.2 อักษรเจี๋ยกู่เหวิน (甲骨文)
อักษรกระดองเต่า เป็นอักษรที่มีการพัฒนามาจากอักษรภาพ แกะอักษรด้วยมีดลงบนกระดูกสัตว์ หรือบนกระดองเต่า เหตุที่เรียกอักษรชนิดนี้ว่า “อักษรกระดองเต่า” เนื่องจากมีการพบอักษรชนิดนี้สลักบนกระดองเต่ามากที่สุดถึง 1 แสน6 หมื่นชิ้น เนื้อหาบนกระดองเต่า เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการเสี่ยงทาย และคำทำนาย รวมถึงชื่อผู้ทำนาย และวัน เวลา ปีที่ทำนาย หลังจากทำการจารึกแล้วจึงนำไปเผาไฟ ผู้ที่ทำหน้าที่ทำนายจะทำนายจากรอยราวที่ปรากฏ พบในสมัยราชวงศ์ซัง ( 商朝 ) อักษรกระดองเต่า เป็นอักษรพื้นฐานในการพัฒนาระบบอักษรภาษาจีน

1.3 อักษรต้าจ้วน (大篆)

อักษรต้าจ้วนมีลักษณะคล้ายอักษรภาพ ลักษณะเส้นจะใหญ่หรือหนากว่าอักษรเจี๋ยกู่เหวิน พบชื่อเรียกแตกต่างกันตามยุคสมัย ดังนี้สมัยราชวงศ์โจว ( 周朝 ) ผู้ประดิษฐ์ชื่อว่า โจ้ว ( 籀 ) อักษรชนิดนี้จึงเรียกว่า อักษรโจ้ว ( 籀文 )
สมัยฉินสื่อหวง ( 秦始皇 ) หลังจากทำการรวมประเทศเป็นปึกแผ่น ทรงสั่งให้หลี่ซือ ชำระอักษรจีนประกาศใช้อักษรระบบเดียวกันทั่วประเทศเรียกว่า จ้วนซู ( 篆书/ 大篆)
สมัยราชวงศ์ซัง และราชวงศ์โจว ชื่อเรียกตามวัตถุจารึก จินเหวิน ( 金文 ) และ จงติ่งเหวิน ( 钟鼎文 ) ยุคนี้เป็นยุคสัมฤทธิ์และโลหะ มักมีการจารึกอักษรลงบนระฆังหรือ ภาชนะปรุงอาหารและใส่อาหารเครื่องดื่ม รวมทั้งเหรียญเงินต่าง ๆ
1.4 อักษรเสี่ยวจ้วน (小篆)
อักษรชนิดนี้มีพัฒนาการจากอักษรต้าจ้วน ลักษณะอักษรมีความคล้ายกับอักษรภาพ มีความซับซ้อนน้อยกว่าต้าจ้วน

2. อักษรจีนปัจจุบัน ( 近代文字阶段)
2.1 อักษรลี่ซู ( 隶书)

2.2 อักษรข่ายซู (楷书)
เป็นอักษรจีนรูปแบบมาตรฐานใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน อักษรข่ายซูเป็นเส้นสัญลักษณ์ที่ประกอบกันขึ้น ภายใต้กรอบสี่เหลี่ยม เป็นการหลุดพ้นจากรูปแบบอักษรภาพของตัวอักขระยุคโบราณอย่างสิ้นเชิง อักษรข่ายซูมีต้นกำเนิดในยุคปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ภายหลังราชวงศ์วุ่ยจิ้น(สามก๊ก) (คริสตศักราช 220 – 316) ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย จากการก้าวเข้าสู่ขอบเขตขั้นใหม่ของอักษรลี่ซู พัฒนาตามมาด้วย อักษรข่ายซู เฉ่าซู และสิงซู ก้าวพ้นจากข้อจำกัดของลายเส้นที่มาจากการแกะสลัก เมื่อถึงยุคถัง (คริสตศักราช 618 – 907) จึงก้าวสู่ยุคทองของอักษรข่ายซูอย่างแท้จริง จวบจนปัจจุบัน อักษรข่ายซูยังเป็นอักษรมาตรฐานของจีน
2.3 อักษรหวัดเฉ่าซู (草书)

2.4 อักษรแกมบรรจง สิงซู ( 行书)

อักษรสิงซู ( 行书 ) เป็นรูปแบบตัวอักษรที่อยู่กึ่งกลางระหว่างอักษรข่ายซูและอักษรเฉ่าซู เกิดจากการเขียนอักษรตัวบรรจงที่เขียนอย่างหวัดหรืออักษรตัวหวัดที่เขียนอย่างบรรจง อาจกล่าวได้ว่า เป็นตัวอักษรกึ่งตัวหวัดและกึ่งบรรจง อักษรสิงซูกำเนิดขึ้นในราวปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก รวบรวมเอาปมเด่นของอักษรข่ายซูและเฉ่าซูเข้าด้วยกัน และยังเป็นอักษรที่เฟื่องฟูในหมู่กวีนักปราชญ์แห่งราชวงศ์ซ่ง ( 宋朝 )
3. อักษรจีนปัจจุบัน ( 现代文字阶段 )
3.1 อักษรจีนตัวเต็ม (繁体文字)
หลักจากจิ๋นซีฮ่องเต้ รวบรวมแผ่นดินจีนเป็นปึกแผ่น ได้มีการรวบรวมและกำหนดแบบแผนการเขียนที่ชัดเจนเป็นระบบขึ้น สำหรับตัวอักษรแบบแผน เป็นการพัฒนาตัวอักษรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสมัยราชวงศ์ฮั่น ( 汉代 ) ถัง ( 唐代 )และ ซ่ง ( 宋代 ) ความซับซ้อนตัวอักษรดั่งเดิม ( 繁体文字 ) ยังเป็นการแสดงถึงความอ่อนช้อย วัฒนธรรม และความรุ่งเรืองในอดีตของจีน
3.2 อักษรจีนตัวย่อ (简体文字阶段)
อักษรจีนย่อ คือ อักษรจีนตัวเต็มที่ถูกลดจำนวนขีดให้น้อยลง เพื่อประโยชน์และความสะดวกในการเขียนและง่ายแก่การจำ
วิวัฒนาการอักษรย่อ
มีการพบลักษณะตัวอักษรย่อ ในวรรณกรรมเรื่อง “ซองกั๋ง” ( 水许传 ) เช่น 劉 > 刘
หรือในสมัยไท่ผิงเทียนกั๋ว (太平天国 ) มีการใช้ในเอกสารหรือตราประทับ สมัยต่อมาลู่เฟ่ยขุย (陆费逵 ) ได้ปลุกกระแสการใช้อักษรย่อ จนกระทั้งปี 1934 มีการตีพิมพ์หนังสือและพจนานุกรมจีนย่อหลากรูปแบบ หลังจากสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน เหมาเจ๋อตุงออกนโยบายรณรงค์ใช้อักษรย่ออย่างจริงจัง โดยกำหนดให้ใช้ในหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ และได้ประกาศใช้รูปแบบอักษรย่อเป็นทางการเมื่อ วันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1956
กลวิธีการทำอักษรย่อ
- ลดจำนวนขีด
- ดัดแปลงบางส่วนของตัวอักษร
麗 > 丽 雲 > 云
隸 > 隶 號 > 号
術 > 术 開 > 开
蟲 > 虫
3. ใช้อักษรจีนที่เขียนง่ายแทนตัวอักษรจีนระบบเก่าที่มีจำนวนขีดมาก
變 > 变 團 > 团
又 --> 漢 > 汉 ㄨ --> 趙 > 赵
4. ยืมคำเพิ่มศัพท์ใหม่
创 แปลว่า สร้าง 新 แปลว่า ใหม่
创新 แปลว่า สร้างใหม่ , นวัตกรรม
การอนุญาตใช้ตัวอักษรเต็ม
- ชื่อโบราณสถาน โบราณวัตถุ
- การเขียนอักษรด้วยพู่กัน หรือ ตราประทับต่าง ๆ
- ลายมือคำอวยพร ป้ายต่าง ๆ
- ตามโอกาสพิเศษขึ้นอยู่กับทางรัฐบาล
อักษรตัวเต็ม(ดั่งเดิม) อักษรตัวย่อ
ไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่
ฮ่องกง สหประชาชาติ
จีนโพ้นทะเล
เดือนสิงหาคม 2009 กระทรวงศึกษาธิการจีนประกาศแก้ไขระบบเขียนตัวอักษรจีน จำนวน 44 ตัว
44 汉字写法调整
①“琴、瑟、琵、琶”的上左和“徵”的中下部件“王”最后一笔横变提
ตัว “王”ที่อยู่ส่วนบนซ้ายของตัว 琴、瑟、琵、琶 และส่วนกลางล่างของตัว “徵”ประกาศให้ขีดสุดท้าย เปลี่ยนจาก 横 เป็น 提
②“魅”的右部件和“籴、汆、褰、衾”的下部件的末笔捺变点
ส่วนขวาของตัว “魅” และส่วนล่างของตัว “籴、汆、褰、衾”ขีดสุดท้ายจาก 捺 เป็น 点
③“巽、撰、馔、噀”的上左部件“巳”的最后一笔竖弯钩变竖提
ขีดสุดท้ายของตัว “巳”ที่อยู่ส่วนบนขวาของตัวอักษร “巽、撰、馔、噀”เปลี่ยนจาก 竖弯钩 เป็น 竖提
④“亲、榇、杀、刹、脎、铩、弑、条、涤、绦、鲦、茶、搽、新、薪、杂、寨”的下部件“木”的竖钩变竖
ตัว “木” ที่อยู่ด้านล่างของตัวอักษร “亲、榇、杀、刹、脎、铩、弑、条、涤、绦、鲦、茶、搽、新、薪、杂、寨”เปลี่ยนจาก 竖钩 เป็น 竖
⑤“恿”的上部件和“瞥(弊、憋同)”的上左部件中横折钩变横折
ส่วนบนของตัวอักษร“恿”และส่วนบนซ้ายของตัวอักษร“瞥(弊、憋)”เปลี่ยนจาก 横折钩 เป็น 横折
⑥“蓐、溽、缛、褥、耨、薅”中的部件“辱”以及“唇、蜃”由半包围结构改为上下结构
ตัว “辱”ของตัวอักษร “蓐、溽、缛、褥、耨、薅”และ ตัวอักษร “唇、蜃”เปลี่ยนโครงสร้างจาก 半包围结构 เป็น 上下结构
⑦“毂”的左下部件“车”上添加一短横
ให้เติม 一短横 ที่ด้านบนของตัว“车”ที่อยู่ส่วนซ้ายล่างของตัวอักษร“毂”
สาเหตุการปรับปรุงวิธีการเขียนเหล่านี้ เพื่อให้ตัวอักษรจีน 44 ตัวดังกล่าวถูกต้องตามหลักวิวัฒนาการและการสร้างของตัวอักษรจีน โดยมีผู้เชียวชาญทางด้านอักษรจีนเข้าร่วมการแก้ไขครั้งนี้มากมายหลายท่าน การแก้ไขดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมายจากสื่อมวลชน (ซึ่งสื่อมวลชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากว่าตัวอักษรแต่ละตัวได้มีการใช้มานานจนเป็นที่ยอมรับแล้ว ไม่จำเป็นต้องแก้ไขวิธีการเขียนใหม่) แต่ทางกระทรวงศึกษาธิการของจีนได้ประกาศใช้แล้วเมื่อปลายเดือนสิงหาคมนี้
程祥徽 和田小琳 . 1988. 现代汉语. 台湾:书林出版有限公司.
高明 . 1983.中国古文字学通论 .中国: 北京大学.
来源. 汉字发展史概况. Available Online: http://221.232.136.70:81/show.aspx?id=401&cid=29
(June 25, 2010).
简体字的发展历史. Available Online: http://www.culcn.cn/info/shownews.asp?newsid=
18352 (June 25, 2010).
教育部拟调整44个汉字写法引争议. Available Online:
http://news.163.com/09/0819/06/5H2FQFIR0001124J.html(July 5, 2010).
汉字是什么. Available Online: http://www.chinavalue.net/Article/Archive/2007/4/22/63068.html(July 5, 2010).
สำนักพิมพ์จีนสยาม. 2548. คู่มือตารางเปรียบเทียบอักษรจีนตัวย่อ – ตัวเต็ม. โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น